วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฟังก์ชัน CEILING และตัวอย่างการใช้งาน

ฟังก์ชัน CEILING และตัวอย่างการใช้งาน CEILING เป็นฟังก์ชัน ประเภท คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ หน้าที่ของฟังก์ชัน CEILING คือ ส่งกลับค่าตัวเ... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน CEILING และตัวอย่างการใช้งาน

CEILING เป็นฟังก์ชัน ประเภท คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ

หน้าที่ของฟังก์ชัน CEILING คือ ส่งกลับค่าตัวเลขที่ปัดเศษขึ้นให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด หรือผลคูณของค่านัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการจะหลีกเลี่ยงการใช้เหรียญสลึงในการตั้งราคา และผลิตภัณฑ์ของคุณราคา 10.22 ให้ใช้สูตร =CEILING(10.22,0.5) เพื่อปัดราคาขึ้นไปให้เป็นเหรียญที่ใกล้เคียงที่สุด

รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน CEILING คือ CEILING(number,significance)

โดยที่ number คือ ค่าที่ต้องการปัดเศษทศนิยมขึ้น

significance คือ ค่าผลคูณของการปัดเศษทศนิยมขึ้น

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน CEILING คือ Even, Floor, Int, Odd, Round, RounDown,RoundUP, Trunc

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน CEILING

1. คลิกเซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 12.26 แล้วกด Enter

2. คลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =ceiling(a2,.25) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 12.5

3. คลิกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ =12.15 แล้วกด Enter

4. คลิกเซลล B3 แล้วพิมพ์ =ceiling(a3,.25) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 12.25

5. คลิกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ =12.26 แล้วกด Enter

6. คลิกเซลล์ B3 แล้วพิมพ์ =ceiling(a3,.5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 12.5

7. คลิกเซลล์ A4 แล้วพิมพ์ 2.03 แล้วกด Enter

8. คลิกเซลล์ B4 แล้วพิมพ์ =ceiling(a4,2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 4

9. คลิกเซลล์ A5 แล้วพิมพ์ =12.26 แล้วกด Enter

10. คลิกเซลล์ B5 แล้วพิมพ์ =ceiling(a5,10) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 20

11. คลิกเซลล์ A6 แล้วพิมพ์ 250 แล้วกด Enter

12. คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =ceiling(a6,a100) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 300

13. คลิกเซลล์ A7 แล้วพิมพ์ -123.45 แล้วกด Enter

14. คลิกเซลล์ B7 แล้วพิมพ์ =ceiling(a7,1) แล้วกด Enter จะแสดงค่า #NUM!

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฟังก์ชัน Bin2oct และวิธีการใช้งานฟังก์ชัน

ฟังก์ชัน Bin2oct และวิธีการใช้งานฟังก์ชัน ฟังก์ชัน Bin2oct คือ ฟังก์ชันประเภทวิศวกรรม Bin2oct ทำหน้าที่ แปลงตัวเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานแป... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน Bin2oct และวิธีการใช้งานฟังก์ชัน

ฟังก์ชัน Bin2oct คือ ฟังก์ชันประเภทวิศวกรรม

Bin2oct ทำหน้าที่ แปลงตัวเลขฐานสองให้เป็นเลขฐานแปด

รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน Bin2oct คือ Bin2oct(number,places)

โดยที่ number คือ ตัวเลขฐานสองที่ต้องการแปลง และต้องมีตัวเลขไม่เกิน 10 อักขระ (10 บิต) ซึ่งบิตที่มีนัยสำคัญที่สุดคือบิตเครื่องหมาย ส่วนบิตที่เหลืออีก 9 บิต คือ บิตขนาด โดยจะแสดงตัวเลขติดลบด้วยสัญกรณ์เติมเต็มฐานสอง

places คือ จำนวนของอักขระที่ใช้ ถ้าค่า places ถูกละไว้ ฟังก์ชัน Bin2oct จะใช้จำนวนน้อยที่สุดของอักขระที่จำเป็น โดย ค่า places มีประโยชน์สำหรับการรองรับค่าผลลัพธ์ที่มี 0 (ศูนย์) ไว้ข้างหน้า

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน Bin2oct ได้แก Dec2bin, Hex2bin, Oct2bin

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Bin2oct

1. คลิกเซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 101110 แล้วกด Enter

2. ที่เซลล์ B2 พิมพ์ =bin2oct(a2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 56

ฟังก์ชัน BESSELJ และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

ฟังก์ชัน BESSELJ และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010) BESSELJ คือ ฟังก์ชันประเภท วิศวกรรม มีหน้าที่ ส่งกลับค่าฟังก์ชัน Bessel รูปแบบ สูตร Exc... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน BESSELJ และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

BESSELJ คือ ฟังก์ชันประเภท วิศวกรรม มีหน้าที่ ส่งกลับค่าฟังก์ชัน Bessel

รูปแบบ สูตร Excel ของ BESSELJ คือ BESSELJ(x,n)

โดยที่ ค่า x คือ ค่าที่ใช้ประเมินฟังก์ชัน

n คือ ลำดับที่ของฟังก์ชัน Bessel หากค่า n ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็จะถูกตัดเศษทศนิยมทิ้ง

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน Besselj ได้แก่ besseLl, besseLk,BesseLY

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน
1. คลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =besselj(2,3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.128943

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฟังก์ชัน AVEDEV และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

ฟังก์ชัน AVEDEV และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010) AVEDEV เป็นฟังก์ชันประเภทสถิติ มีหน้าที่หลักคือ ส่งกลับค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของอา... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน AVEDEV และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

AVEDEV เป็นฟังก์ชันประเภทสถิติ มีหน้าที่หลักคือ ส่งกลับค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของอาร์กิวเมนต์ทั้งหมด

รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน AVEDEV คือ AVEDEV(number1,number2,…)

โดยที่ number1, number2, … คือ อาร์กิวเมนต์ 1 ถึง 30 อาร์กิวเมนต์ที่คุณต้องการหาค่าเฉลี่ยของส่วนเบี่ยงเบนสัมบูรณ์ คุณสามารถใช้อาร์เรย์หรืออ้างอิงถึงอาร์เรย์หนึ่งแทนการใช้อาร์กิวเมนต์ที่แยกด้วยเครื่องหมายจุดภาค

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน AVEDEV คือ AVERAGE, AVERAGEA, DEVSQ, STDEV, STDEVP, VAR, VARP


ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน AVEDEV

1. เลือกเซลล์ B2:B5 แล้วพิมพ์ 3 แล้วกด Enter

2. พิมพ์ 4 แล้วกด Enter แล้วพิมพ์ 8 แล้วกด Enter จากนั้นพิมพ์ 6 แล้วกด Enter

3. ที่เซลล์ A6 พิมพ์ X bar

4. ที่เซลล์ B6 พิมพ์ =average(b2:b5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5.25

5. คลิกที่เซลล์ C2 แล้วพิมพ์ =abs(b2-$b$6) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2.26

6. Auto Fill สูตรจากเซลล์ C2 ลงไปจนถึงเซลล์ C5 จะแสดงผลตั้งแต่เซลล์ C2 ลงไปตามลำดับดังนี้ 2.25, 1.25, 2.75, 0.75

7. คลิกเซลล์ C7 แล้วพิมพ์ =sum(c2:c5)/count(b2:b5) จะแสดงค่า 1.75

8. คลิกเซลล์ C9 แล้วพิมพ์ =avedev(b2:b5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.75

9. คลิกเซลล์ B7 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b5)/count(b2:b5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5.25