วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

เอ็กเซล 2007 กับ ฟังก์ชั่น ERROR TYPE

เอ็กเซล 2007 กับ ฟังก์ชั่น ERROR.TYPE ประเภท ข้อมูล ความหมาย ส่งกลับค่าตัวเลขที่ตรงกับค่าความผิดพลาดใน Microsoft Excel หรือส่งกลับ... thumbnail 1 summary


เอ็กเซล 2007 กับ ฟังก์ชั่น ERROR.TYPE
ประเภท ข้อมูล
ความหมาย ส่งกลับค่าตัวเลขที่ตรงกับค่าความผิดพลาดใน Microsoft Excel หรือส่งกลับค่าเป็น #N/A ถ้าไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้น คุณสามารถใช้ ERROR TYPE ในฟังก์ชั่น IF เพื่อทดสอบค่าความผิดพลาดแล้วส่งกลับค่าเป็นสายอักขระข้อความ เช่น เป็นข้อความต่างๆ แทนที่จะบอกเป็นค่าความผิดพลาดอักขระข้อความ เช่น เป็นข้อความต่างๆแทนที่จะบอกเป็นค่าความผิดพลาด
สูตร ERROR.TYPE(error_val)
Error_val คือค่าความผิดพลาดหรือการอ้างอิงไปยังเซลล์ที่มีค่าความผิดพลาดที่คุณต้องการหาตัวเลขที่สอดคล้องกัน





ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ ฟังก์ชั่น ISFUNCTIONS
ตัวอย่างการใช้งาน ฟงก์ชั่น ERROR.TYPE
ที่เอ็กเซล ให้ระบายเซลล์ A1:A8 และพิมพ์ Error value และกด Enter แล้วพิมพ์ 1 กด enter พิมพ์ 2 แล้วกด Enter
ที่เอ็กเซล พิมพ์ 3 แล้วกด Enter พิมพ์ 4 แล้วกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด Enter พิมพ์ 6 แล้วกด Enter พิมพ์ 7 แล้วกด Enter
ที่เอ็กเซล ระบายเซลล์ B1:B8 แล้วพิมพ์ Error.Type แล้วกด Enter พิมพ์ #NULL! แล้วกด Enter พิมพ์ #DIV/0! แล้วกด Enter
พิมพ์ #VALUE! แล้วกด Enter พิมพ์ #REF! แล้วกด Enter พิมพ์ #NAME? แล้วกด Enter พิมพ์ #NUM! แล้วกด Enter พิมพ์ #N/A แล้วกด Enter
ที่เอ็กเซล คลิกเซลล์ A10 แล้วพิมพ์ 10 แล้วคลิก A11 พิมพ์ 5
ที่เอ็กเซล ให้คลิกที่เซลล์ B11 แล้วพิมพ์ =a10/a11 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2
หากพิมพ์ 0 ที่เซลล์ A11 แล้วกด Enter จะเห็นเซลล์ B11 แสดงค่า #DIV/O!
คลิกเซลล์ C11 แล้วพิมพ์ =if(error.type(b11)=2,”xxx”,”yyy”) แล้วกด Enter จะโชว์ค่า xxx
ที่เอ็กเซล ที่เซลล์ B12 แล้วพิมพ์ =aaa*25 แล้วกด Enter จะแสดงค่า #NAME?
ที่เอ็กเซล คลิกที่เซลล์ C12 แล้วพิมพ์ if(error.type(b12)<=6,choose(error.type(b12),”A”,”B”,”C”,”D”,”E”,”F”),”Not available”) แล้วกด Enter จะแสดงค่า E
คลิกเซลล์ B13 แล้วพิมพ์ =a10*a11 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0
ที่เอ็กเซลล์ คลิกเซลล์ B13 แล้วพิมพ์ =if(error.type(b13)<=6,choose(error.type(b13),”A”,”B”,”C”,”D”,”E”,”F”),”Not available”) และกด Enter จะโชว์ #N/A
ที่เอ็กเซลล์ คลิกเซลล์ A11 แล้วพิมพ์ =”” และกด Enter จะเห็นเซลล์ B11 แสดงค่า #VALUE! และที่เซลล์ B12 จะโชว์ #NAME? และทีเซลล์ B13 จะแสดงค่า #VALUE
ส่วนที่เซลล์ C11 โชว์ YYY และที่เซลล์ C12 แสดงค่า E และที่เซลล์ C13 จะแสดงค่า C