Excel กับฟังก์ชั่น COUPNUM
COUPNUM คือฟังก์ชั่น การเงิน ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าจำนวนของตั๋วเงินที่จะต้องจ่ายระหว่างวันที่ซื้อตั๋วและวันที่ครบกำหนดจ่ายเงินโดยปัดเศษบนหน้าตั๋วทั้งหมดเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด
รูปแบบสูตร COUPNUM(settlement,maturity,frequency,basis)
Settlement คือวันที่ทำข้อตกลงของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่ส่งมอบหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ
maturity คือวันที่ครบกำหนดชำระของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่หลักทรัพย์หมดอายุลงนั่นเอง
frequency คือจำนวนครั้งในการชำระค่าตราสารต่อปี ในกรณีที่เป็นการชำระแบบรายปี frequency=1 ถ้าเป็นการชำระแบบรายครึ่งปี frequency=2 และถ้าเป็นการชำระแบบรายไตรมาส frequency=4
basis คือ ชนิดของหลักเกณฑ์ในการนับจำนวนวัน
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง เช่น COUPDAYBS, COUPDAYS, COUPDAYSNC, COUPNCD, COUPPCD, DATE
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น COUPNUM
1 ให้ระบายเซลล์ A1:A4 แล้วพิมพ์ settlement และกด Enter
2 พิมพ์ maturity และกด Enter พิมพ์ frequency และกด Enter พิมพ์ Basis และกด Enter
3 ระบายเซลล์ B:B4 แล้วพิมพ์ 5-Feb-00 และกด Enter
4 พิมพ์ 1-jan-01 และกด Enter พิมพ์ 2 และกด Enter พิมพ์ 1 และกด Enter
5 คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =coupnum(b1,b2,b3,b4) และกด Enter จะแสดงค่า 2
COUPNUM คือฟังก์ชั่น การเงิน ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าจำนวนของตั๋วเงินที่จะต้องจ่ายระหว่างวันที่ซื้อตั๋วและวันที่ครบกำหนดจ่ายเงินโดยปัดเศษบนหน้าตั๋วทั้งหมดเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด
รูปแบบสูตร COUPNUM(settlement,maturity,frequency,basis)
Settlement คือวันที่ทำข้อตกลงของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่ส่งมอบหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ
maturity คือวันที่ครบกำหนดชำระของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่หลักทรัพย์หมดอายุลงนั่นเอง
frequency คือจำนวนครั้งในการชำระค่าตราสารต่อปี ในกรณีที่เป็นการชำระแบบรายปี frequency=1 ถ้าเป็นการชำระแบบรายครึ่งปี frequency=2 และถ้าเป็นการชำระแบบรายไตรมาส frequency=4
basis คือ ชนิดของหลักเกณฑ์ในการนับจำนวนวัน
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง เช่น COUPDAYBS, COUPDAYS, COUPDAYSNC, COUPNCD, COUPPCD, DATE
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น COUPNUM
1 ให้ระบายเซลล์ A1:A4 แล้วพิมพ์ settlement และกด Enter
2 พิมพ์ maturity และกด Enter พิมพ์ frequency และกด Enter พิมพ์ Basis และกด Enter
3 ระบายเซลล์ B:B4 แล้วพิมพ์ 5-Feb-00 และกด Enter
4 พิมพ์ 1-jan-01 และกด Enter พิมพ์ 2 และกด Enter พิมพ์ 1 และกด Enter
5 คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =coupnum(b1,b2,b3,b4) และกด Enter จะแสดงค่า 2