Excel กับฟังก์ชั่น FINV
FINV เป็นฟังก์ชั่นทางด้าน สถิติ
ทำหน้าที่ คือ ส่งกลับค่าผกผันของค่า F ของการแจกแจงความน่าจะเป็น ถ้า p =FDIST(x,…) ค่า FINV(p,…)=x สามารถใช้ค่า F ของการแจกแจง ในการทดสอบแบบ F ที่เปรียบเทียบองศาความแปรปรวนในชุดข้อมูลสองชุด ตัวอย่าง เช่น คุณสามารถวิเคราะห์การกระจายรายได้ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาเพื่อหาว่าสองประเทศนี้มีระดับการกระจายคล้ายคลึงกันหรือไม่
รูปแบบสูตร คือ FINV(probability,degrees_freedom1,degrees_freedom2)
probability คือ ค่าความน่าจะเป็นที่หาได้จากการแจกแจงสะสม F
degrees_freedom1 คือองศาความเป็นอิสระตัวเศษ
degrees_freedom2 คือองศาความเป็นอิสระตัวส่วน
ฟังก์ชั่นที่มีความเกี่ยวข้องก็ได้แก่ FDIST, FTEST
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น FINV
1 ให้ระบายเซลล์ A2:A4 แล้วพิมพ์ Probability และกด Enter พิมพ์ Degree of freedom 1 และกด Enter พิมพ์ Degree offreedom 2 และกด Enter
2 ระบายเซลล์ B2:B4 แล้วพิมพ์ 0.025 และกดEnter พิมพ์ 4 และกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด enter
3 คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =finv(b2,b3,b4) และกด Enterจะโชว์ 7.387882
4 คลิกเซลล์ B8แล้วพิมพ์ =fdist(b6,b3,b4) และกด Enter จะแสดงค่า 0.025
FINV เป็นฟังก์ชั่นทางด้าน สถิติ
ทำหน้าที่ คือ ส่งกลับค่าผกผันของค่า F ของการแจกแจงความน่าจะเป็น ถ้า p =FDIST(x,…) ค่า FINV(p,…)=x สามารถใช้ค่า F ของการแจกแจง ในการทดสอบแบบ F ที่เปรียบเทียบองศาความแปรปรวนในชุดข้อมูลสองชุด ตัวอย่าง เช่น คุณสามารถวิเคราะห์การกระจายรายได้ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาเพื่อหาว่าสองประเทศนี้มีระดับการกระจายคล้ายคลึงกันหรือไม่
รูปแบบสูตร คือ FINV(probability,degrees_freedom1,degrees_freedom2)
probability คือ ค่าความน่าจะเป็นที่หาได้จากการแจกแจงสะสม F
degrees_freedom1 คือองศาความเป็นอิสระตัวเศษ
degrees_freedom2 คือองศาความเป็นอิสระตัวส่วน
ฟังก์ชั่นที่มีความเกี่ยวข้องก็ได้แก่ FDIST, FTEST
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น FINV
1 ให้ระบายเซลล์ A2:A4 แล้วพิมพ์ Probability และกด Enter พิมพ์ Degree of freedom 1 และกด Enter พิมพ์ Degree offreedom 2 และกด Enter
2 ระบายเซลล์ B2:B4 แล้วพิมพ์ 0.025 และกดEnter พิมพ์ 4 และกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด enter
3 คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =finv(b2,b3,b4) และกด Enterจะโชว์ 7.387882
4 คลิกเซลล์ B8แล้วพิมพ์ =fdist(b6,b3,b4) และกด Enter จะแสดงค่า 0.025