Excel กับ ฟังก์ชั่น False
False เป็นฟังก์ชั่นประเภท ตรรกศาสตร์
ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าตรรกศาสตร์ False
รูปแบบสูตร FALSE()
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ And, Not, True
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น False ให้เราลองทำตามตัวอย่างด้านล่างนี้ครับ
1. คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =false() และกด Enterจะแสดงค่า False
2. คลิกที่เซลล์ B3 แล้วพิมพ์ false และกด Enter จะแสดงค่า False
3. คลิกที่เซลล์ B4 แล้วพิมพ์ =if(2=2,false(),true() และกด Enter จะแสดงค่า False
4. คลิกเซลล์ A6 แล้วพิมพ์ 300 จากนั้นคลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ 200
5. คลิกเซลล์ C6 แล้วพิมพ์ =if(b6>a6,true(),false()) แล้วกด Enter จะแสดงค่า False
6. คลิกเซลล์ D6 แล้วพิมพ์ =if(c6,”Yes”,”No”) แล้วกด Enter จะแสดง No
7. หากคลิกที่เซลล์ B6 แล้วพิมพ์ 400 และกด Enter ที่เซลล์ C6 จะแสดงค่า True และที่เซลล์ D6 จะแสดงค่า Yes
False เป็นฟังก์ชั่นประเภท ตรรกศาสตร์
ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าตรรกศาสตร์ False
รูปแบบสูตร FALSE()
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ And, Not, True
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น False ให้เราลองทำตามตัวอย่างด้านล่างนี้ครับ
1. คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =false() และกด Enterจะแสดงค่า False
2. คลิกที่เซลล์ B3 แล้วพิมพ์ false และกด Enter จะแสดงค่า False
3. คลิกที่เซลล์ B4 แล้วพิมพ์ =if(2=2,false(),true() และกด Enter จะแสดงค่า False
4. คลิกเซลล์ A6 แล้วพิมพ์ 300 จากนั้นคลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ 200
5. คลิกเซลล์ C6 แล้วพิมพ์ =if(b6>a6,true(),false()) แล้วกด Enter จะแสดงค่า False
6. คลิกเซลล์ D6 แล้วพิมพ์ =if(c6,”Yes”,”No”) แล้วกด Enter จะแสดง No
7. หากคลิกที่เซลล์ B6 แล้วพิมพ์ 400 และกด Enter ที่เซลล์ C6 จะแสดงค่า True และที่เซลล์ D6 จะแสดงค่า Yes