01:54:00
สูตร Excel การใช้ ฟังก์ชั่น ISLOGICAL
สูตรหรือฟังก์ชั่น ISLOGICAL จัดเป็นสูตรด้าน ข้อมูล
ทำหน้าที่ คืนค่า True ถ้าค่าเป็นค่าตรรกศาสตร์
รูปแบบสูตร คือ ISLOGICAL(value)
โดยที่ Value คือค่าที่คุณต้องการให้ทดสอบ ค่า value สามารถเป็นค่าว่างเปล่า (เซลล์ว่าง) ค่าความผิดพลาด ตรรกะ ข้อความ ตัวเลข หรือค่าการอ้างอิงหรือชื่อซึ่งอ้างอิงกับอะไรก็ได้ที่เราต้องการทดสอบ
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ ERROR.TYPE, ISEVEN, ISODD, TYPE
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น ISLOGICAL บน Excel ให้เราทำดังนี้
1. คลิกเซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 2 จากนั้นคลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =islogical(a2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า False
2. คลิกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ True จากนั้นคลิกเซลล์ B3 แล้วพิมพ์ =islogical(a3) และกด Enter จะแสดงค่า True
3. คลิกเซลล์ A4 แล้วพิมพ์ =true() จากนั้นคลิกเซลล์ B4 แล้วพิมพ์ =islogical(a4) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
4. คลิกเซลล์ A5 แล้วพิมพ์ false จากนั้นคลิกเซลล์ b5 แล้วพิมพ์ =islogical(a5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
5. คลิกเซลล์ A6 แล้วพิมพ์ =false() จากนั้นคลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =islogical(a6) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True ออกมา
6. คลิกเซลล์ A7 แล้วพิมพ์ =if(a2=0,false(),true()) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True จากนั้นคลิกเซลล์ B7 แล้วพิมพ์ =islogical(a7) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
สูตรหรือฟังก์ชั่น ISLOGICAL จัดเป็นสูตรด้าน ข้อมูล
ทำหน้าที่ คืนค่า True ถ้าค่าเป็นค่าตรรกศาสตร์
รูปแบบสูตร คือ ISLOGICAL(value)
โดยที่ Value คือค่าที่คุณต้องการให้ทดสอบ ค่า value สามารถเป็นค่าว่างเปล่า (เซลล์ว่าง) ค่าความผิดพลาด ตรรกะ ข้อความ ตัวเลข หรือค่าการอ้างอิงหรือชื่อซึ่งอ้างอิงกับอะไรก็ได้ที่เราต้องการทดสอบ
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ ERROR.TYPE, ISEVEN, ISODD, TYPE
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น ISLOGICAL บน Excel ให้เราทำดังนี้
1. คลิกเซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 2 จากนั้นคลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =islogical(a2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า False
2. คลิกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ True จากนั้นคลิกเซลล์ B3 แล้วพิมพ์ =islogical(a3) และกด Enter จะแสดงค่า True
3. คลิกเซลล์ A4 แล้วพิมพ์ =true() จากนั้นคลิกเซลล์ B4 แล้วพิมพ์ =islogical(a4) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
4. คลิกเซลล์ A5 แล้วพิมพ์ false จากนั้นคลิกเซลล์ b5 แล้วพิมพ์ =islogical(a5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
5. คลิกเซลล์ A6 แล้วพิมพ์ =false() จากนั้นคลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =islogical(a6) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True ออกมา
6. คลิกเซลล์ A7 แล้วพิมพ์ =if(a2=0,false(),true()) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True จากนั้นคลิกเซลล์ B7 แล้วพิมพ์ =islogical(a7) แล้วกด Enter จะแสดงค่า True
