ฟังก์ชัน MDETERM
MDETERM จัดเป็น ฟังก์ชัน ด้านคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติของ Excel
มีหน้าที่ ส่งกลับค่าแมทริกซ์ดีเทอร์มิแนนต์ (matrix determinant) ของอาร์เรย์
โดย MDETERM มีรูปแบบดังนี้คือ MDETERM(array)
โดยที่ตัวแปรอาร์เรย์ array คือ อาร์เรย์ของตัวเลขที่มีจำนวนแถวและจำนวนคอลัมน์เท่ากัน
ฟังก์ชัน ที่เกี่ยวข้องกับ ฟังก์ชัน MDETERM คือ MINVERSE, MMULT, TRANSPOSE
ตัวอย่างการใช้งาน ให้เราลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. พิมพ์ 2 ที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ 3 ที่เซลล์ B3 พิมพ์ 4 ที่เซลล์ C2 แล้วพิมพ์ 8 ที่เซลล์ C3
2. ระบายเซลล์ F2:H4 จากนั้นพิมพ์ 1 กด Enter พิมพ์ 2 กด enter พิมพ์ 5 กด Enter พิมพ์ 4 กด enter พิมพ์ 5 กด enter พิมพ์ 6 กด Enter พิมพ์ 7 กด Enter พิมพ์ 8 กด Enter พิมพ์ 5 กด Enter
3. คลิกเซลล์ C6 แล้วพิมพ์ =2*8*3*4 จากนั้นกด Enter จะแสดงค่า 4
4. คลิกเซลล์ C7 แล้วพิมพ์ =mdeterm(b2:c3) แล้วก็กด enter จะแสดงค่า 4
5. คลิกเซลล์ F6 แล้วพิมพ์ =1*5*5+2*6*7+5*4*8*5*5*7-2*4*5-1*6*8 แล้วกด enter จะแสดงค่า 6
6. คลิกเซลล์ F7 แล้วพิมพ์ =mdeterm(f2:h4) และกด Enter จะแสดงค่า 6 อออกมา
ว่างๆจะเอาตัวอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟังก์ชัน MDETERM มาให้ดูอีกนะครับ วันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน.
MDETERM จัดเป็น ฟังก์ชัน ด้านคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติของ Excel
มีหน้าที่ ส่งกลับค่าแมทริกซ์ดีเทอร์มิแนนต์ (matrix determinant) ของอาร์เรย์
โดย MDETERM มีรูปแบบดังนี้คือ MDETERM(array)
โดยที่ตัวแปรอาร์เรย์ array คือ อาร์เรย์ของตัวเลขที่มีจำนวนแถวและจำนวนคอลัมน์เท่ากัน
ฟังก์ชัน ที่เกี่ยวข้องกับ ฟังก์ชัน MDETERM คือ MINVERSE, MMULT, TRANSPOSE
ตัวอย่างการใช้งาน ให้เราลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. พิมพ์ 2 ที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ 3 ที่เซลล์ B3 พิมพ์ 4 ที่เซลล์ C2 แล้วพิมพ์ 8 ที่เซลล์ C3
2. ระบายเซลล์ F2:H4 จากนั้นพิมพ์ 1 กด Enter พิมพ์ 2 กด enter พิมพ์ 5 กด Enter พิมพ์ 4 กด enter พิมพ์ 5 กด enter พิมพ์ 6 กด Enter พิมพ์ 7 กด Enter พิมพ์ 8 กด Enter พิมพ์ 5 กด Enter
3. คลิกเซลล์ C6 แล้วพิมพ์ =2*8*3*4 จากนั้นกด Enter จะแสดงค่า 4
4. คลิกเซลล์ C7 แล้วพิมพ์ =mdeterm(b2:c3) แล้วก็กด enter จะแสดงค่า 4
5. คลิกเซลล์ F6 แล้วพิมพ์ =1*5*5+2*6*7+5*4*8*5*5*7-2*4*5-1*6*8 แล้วกด enter จะแสดงค่า 6
6. คลิกเซลล์ F7 แล้วพิมพ์ =mdeterm(f2:h4) และกด Enter จะแสดงค่า 6 อออกมา
ว่างๆจะเอาตัวอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟังก์ชัน MDETERM มาให้ดูอีกนะครับ วันนี้ขอเพียงเท่านี้ก่อน.