ฟังก์ชัน SUMSQ และวิธีการใช้งาน
ฟังก์ชัน SUMSQ จัดเป็น ฟังก์ชัน ด้านคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ
ทำหน้าที่ ส่งกลับผลรวมของอาร์กิวเมนต์ยกกำลังสอง
รูปแบบ สูตร Excel ของ ฟังก์ชัน SUMSQ คือ SUMSQ(number1,number2,…)
โดยที่ number1, number2, … คือ อาร์กิวเมนต์ที่ 1 ถึง 30 ที่คุณต้องการหาค่าของผลรวมยกกำลังสอง คุณสามารถใช้อาร์เรย์หรือการอ้างอิงถึงอาร์เรย์ แทนที่อาร์กิวเมนต์ที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ด้วย
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน SUMSQ ได้แก่ SUM, SUMPRODUCT
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน SUMSQ ให้ลองทำตามตัวอย่างต่อไปนี้
1. เลือกเซลล์ B2:B5 แล้วพิมพ์ 2 จากนั้น กด Enter พิมพ์ 3 แล้วกด Enter พิมพ์ 4 แล้วกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด Enter
2. เลือกเซลล์ C2:C5 แล้วพิมพ์ =b2^2 จากนั้นกด Ctrl+Enter จะแสดงค่าผลการคำนวณออกมา
3. คลิกเซลล์ C7 แล้วดับเบิลคลิกปุ่ม Auto Sum จะแสดงค่า 54
4. อีกวิธีหนึ่งคือคลิกที่เซลล์ C8 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b5^2) แล้วกด Ctrl+Shift+Enter จะแสดงค่า 54
5. หากต้องการกำหนดตามสูตร ขอให้คลิกที่เซลล์ C9 แล้วพิมพ์ =sumsq(b2:b5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 54
ฟังก์ชัน SUMSQ จัดเป็น ฟังก์ชัน ด้านคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ
ทำหน้าที่ ส่งกลับผลรวมของอาร์กิวเมนต์ยกกำลังสอง
รูปแบบ สูตร Excel ของ ฟังก์ชัน SUMSQ คือ SUMSQ(number1,number2,…)
โดยที่ number1, number2, … คือ อาร์กิวเมนต์ที่ 1 ถึง 30 ที่คุณต้องการหาค่าของผลรวมยกกำลังสอง คุณสามารถใช้อาร์เรย์หรือการอ้างอิงถึงอาร์เรย์ แทนที่อาร์กิวเมนต์ที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ด้วย
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชัน SUMSQ ได้แก่ SUM, SUMPRODUCT
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน SUMSQ ให้ลองทำตามตัวอย่างต่อไปนี้
1. เลือกเซลล์ B2:B5 แล้วพิมพ์ 2 จากนั้น กด Enter พิมพ์ 3 แล้วกด Enter พิมพ์ 4 แล้วกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด Enter
2. เลือกเซลล์ C2:C5 แล้วพิมพ์ =b2^2 จากนั้นกด Ctrl+Enter จะแสดงค่าผลการคำนวณออกมา
3. คลิกเซลล์ C7 แล้วดับเบิลคลิกปุ่ม Auto Sum จะแสดงค่า 54
4. อีกวิธีหนึ่งคือคลิกที่เซลล์ C8 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b5^2) แล้วกด Ctrl+Shift+Enter จะแสดงค่า 54
5. หากต้องการกำหนดตามสูตร ขอให้คลิกที่เซลล์ C9 แล้วพิมพ์ =sumsq(b2:b5) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 54