ฟังก์ชัน Subtotal และวิธีการใช้งาน
(How to use Subtotal function)
Subtotal คือ ฟังก์ชันที่ปรากฏอยู่ใน Excel 2003, Excel 2007, Excel 2010 เป็นฟังก์ชัน หาผลร่วมตัวหนึ่งของ Excel...วันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้งานฟังก์ชันนี้กัน ตั้งใจอ่านให้ดีน่ะจ๊ะ
Subtotal เป็นฟังก์ชัน ด้าน คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ
หน้าที่ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ ส่งกลับค่าผลรวมย่อยของรายการหรือฐานข้อมูล โดยทั่วไปแล้วเป็นการง่ายที่จะสร้างรายการพร้อมกับผลร่วมย่อย โดยการใช้คำสั่ง ผลรวมย่อย (ในเมนูข้อมูล) หลังจากสร้างรายการผลรวมย่อยแล้ว เราสามารถดัดแปลงโดยการแก้ไขที่ ฟังก์ชัน Subtotal
รูปแบบ สูตร Excel ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ Subtotal(function_num_ref1,ref2,…)
โดยที่ function_num คือตัวเลข 1 ถึง 11 ที่ใช้ระบุฟังก์ชันที่จะใช้สำหรับการคำนวณผลรวมย่อยในรายการ
ref1, ref2 คือ ช่วงหรือการอ้างอิงที่ 1 ถึง 29 ที่คุณต้องการค่าผลรวมย่อยให้ทดลองพิมพ์สูตรในโปรแกรม Excel ดังต่อไปนี้
1. เลือกเซลล์ B2:B8 จากนั้นพิมพ์ 100 แล้วกด Enter
2. พิมพ์ 200 แล้วกด Enter
3. พิมพ์ 350 แล้วกด Enter
4. พิมพ์ 250 แล้วกด Enter
5. พิมพ์ 450 แล้วกด Enter
6. พิมพ์ 360 แล้วกด Enter
7. พิมพ์ 420 แล้วกด Enter
8. เลือกเซลล์ D2:D12 จากนั้นพิมพ์ Average แล้วกด Enter
9. พิมพ์ Count แล้วกด Enter
10. พิมพ์ CountA แล้วกด Enter
11. พิมพ์ Max แล้วกด Enter
12. พิมพ์ Min แล้วกด Enter
13. พิมพ์ Product แล้วกด Enter
14. พิมพ์ Stdeve แล้วกด Enter
15. พิมพ์ StdeP แล้วกด Enter
16. พิมพ์ Sum แล้วกด Enter
17. พิมพ์ Var แล้วกด Enter
18. พิมพ์ VarP แล้วกด Enter
19. เลือกเซลล์ G1:G12 จากนั้นพิมพ์ Function Num แล้วกด Enter
20. พิมพ์ 1 แล้วกด Enter
21. พิมพ์ 2 แล้วกด Enter
22. พิมพ์ 3 แล้วกด Enter
23. พิมพ์ 4 แล้วกด Enter
24. พิมพ์ 5 แล้วกด Enter
25. พิมพ์ 6 แล้วกด Enter
26. พิมพ์ 7 แล้วกด Enter
27. พิมพ์ 8 แล้วกด Enter
28. พิมพ์ 9 แล้วกด Enter
29. พิมพ์ 10 แล้วกด Enter
30. พิมพ์ 11 แล้วกด Enter
31. คลิกเซลล์ E2 แล้วพิมพ์ =Average($b$2:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857
32. คลิกเซลล์ E3 แล้วพิมพ์ =count($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7
33. คลิกเซลล์ E4 แล้วพิมพ์ =counta($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7
34. คลิกเซลล์ E5 แล้วพิมพ์ =max($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า จะแสดงค่า 450
35. คลิกเซลล์ E6 แล้วพิมพ์ =min($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 100
36. คลิกเซลล์ E7 แล้วพิมพ์ =product($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.1907E+17
37. คลิกเซลล์ E8 แล้วพิมพ์ =stdev($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 126.076319
38. คลิกเซลล์ E9 แล้วพิมพ์ =stdevp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 116.72399
39. คลิกเซลล์ E10 แล้วพิมพ์ =sum($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2130
40. คลิกเซลล์ E11 แล้วพิมพ์ =var($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 15895.2381
41. คลิกเซลล์ E12 แล้วพิมพ์ =varp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 13624.4898
42. คลิกเซลล์ H2 แล้วพิมพ์ =subtotal(g2,$b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857 แล้ว Auto Fill สูตรลงมาที่เซลล์ H12 จะแสดงผลเหมือนกับช่วงเซลล์ E2:E12
(How to use Subtotal function)
Subtotal คือ ฟังก์ชันที่ปรากฏอยู่ใน Excel 2003, Excel 2007, Excel 2010 เป็นฟังก์ชัน หาผลร่วมตัวหนึ่งของ Excel...วันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้งานฟังก์ชันนี้กัน ตั้งใจอ่านให้ดีน่ะจ๊ะ
Subtotal เป็นฟังก์ชัน ด้าน คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ
หน้าที่ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ ส่งกลับค่าผลรวมย่อยของรายการหรือฐานข้อมูล โดยทั่วไปแล้วเป็นการง่ายที่จะสร้างรายการพร้อมกับผลร่วมย่อย โดยการใช้คำสั่ง ผลรวมย่อย (ในเมนูข้อมูล) หลังจากสร้างรายการผลรวมย่อยแล้ว เราสามารถดัดแปลงโดยการแก้ไขที่ ฟังก์ชัน Subtotal
รูปแบบ สูตร Excel ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ Subtotal(function_num_ref1,ref2,…)
โดยที่ function_num คือตัวเลข 1 ถึง 11 ที่ใช้ระบุฟังก์ชันที่จะใช้สำหรับการคำนวณผลรวมย่อยในรายการ
ref1, ref2 คือ ช่วงหรือการอ้างอิงที่ 1 ถึง 29 ที่คุณต้องการค่าผลรวมย่อยให้ทดลองพิมพ์สูตรในโปรแกรม Excel ดังต่อไปนี้
1. เลือกเซลล์ B2:B8 จากนั้นพิมพ์ 100 แล้วกด Enter
2. พิมพ์ 200 แล้วกด Enter
3. พิมพ์ 350 แล้วกด Enter
4. พิมพ์ 250 แล้วกด Enter
5. พิมพ์ 450 แล้วกด Enter
6. พิมพ์ 360 แล้วกด Enter
7. พิมพ์ 420 แล้วกด Enter
8. เลือกเซลล์ D2:D12 จากนั้นพิมพ์ Average แล้วกด Enter
9. พิมพ์ Count แล้วกด Enter
10. พิมพ์ CountA แล้วกด Enter
11. พิมพ์ Max แล้วกด Enter
12. พิมพ์ Min แล้วกด Enter
13. พิมพ์ Product แล้วกด Enter
14. พิมพ์ Stdeve แล้วกด Enter
15. พิมพ์ StdeP แล้วกด Enter
16. พิมพ์ Sum แล้วกด Enter
17. พิมพ์ Var แล้วกด Enter
18. พิมพ์ VarP แล้วกด Enter
19. เลือกเซลล์ G1:G12 จากนั้นพิมพ์ Function Num แล้วกด Enter
20. พิมพ์ 1 แล้วกด Enter
21. พิมพ์ 2 แล้วกด Enter
22. พิมพ์ 3 แล้วกด Enter
23. พิมพ์ 4 แล้วกด Enter
24. พิมพ์ 5 แล้วกด Enter
25. พิมพ์ 6 แล้วกด Enter
26. พิมพ์ 7 แล้วกด Enter
27. พิมพ์ 8 แล้วกด Enter
28. พิมพ์ 9 แล้วกด Enter
29. พิมพ์ 10 แล้วกด Enter
30. พิมพ์ 11 แล้วกด Enter
31. คลิกเซลล์ E2 แล้วพิมพ์ =Average($b$2:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857
32. คลิกเซลล์ E3 แล้วพิมพ์ =count($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7
33. คลิกเซลล์ E4 แล้วพิมพ์ =counta($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7
34. คลิกเซลล์ E5 แล้วพิมพ์ =max($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า จะแสดงค่า 450
35. คลิกเซลล์ E6 แล้วพิมพ์ =min($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 100
36. คลิกเซลล์ E7 แล้วพิมพ์ =product($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.1907E+17
37. คลิกเซลล์ E8 แล้วพิมพ์ =stdev($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 126.076319
38. คลิกเซลล์ E9 แล้วพิมพ์ =stdevp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 116.72399
39. คลิกเซลล์ E10 แล้วพิมพ์ =sum($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2130
40. คลิกเซลล์ E11 แล้วพิมพ์ =var($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 15895.2381
41. คลิกเซลล์ E12 แล้วพิมพ์ =varp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 13624.4898
42. คลิกเซลล์ H2 แล้วพิมพ์ =subtotal(g2,$b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857 แล้ว Auto Fill สูตรลงมาที่เซลล์ H12 จะแสดงผลเหมือนกับช่วงเซลล์ E2:E12