ฟังก์ชัน YearFrac และตัวอย่างการใช้งานบน Excel 2010
YearFrac จัดเป็นฟังก์ชันด้าน วันที่และเวลาของ Excel
ฟังก์ชัน YearFrac ทำหน้าที่ คำนวณเศษส่วนของปีที่แสดงด้วยจำนวนเต็มของวัน ระหว่างวันที่สองวันที่ (Start_date และ End_date) ให้เราใช้ฟังก์ชันของแผ่นงาน YearFrac ในการหาสัดส่วนของผลกำไรหรือข้อผูกมัดของทั้งปีเพื่อกำหนดให้ระยะเวลาที่ระบุไว้
รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน YearFrac คือ YearFrac(start_date,end_date,basis)
โดยที่พารามิเตอร์แต่ละตัวมีความหมายดังนี้
start_date คือวันที่ที่ใช้แทนวันที่เริ่มต้น
end_date คือวันที่ที่ใช้แทนวันที่สิ้นสุด
basis คือชนิดของหลักเกณฑ์ในการนับจำนวนวัน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องได้แก่ Edate, Emonth, Networkdays, Now, Workday
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน YearFrac
1. เลือกเซลล์ A2:A4 แล้วพิมพ์ Start Date แล้วกด Enter
2. พิมพ์ End Date แล้วกด Enter
3. พิมพ์ Basis แล้วกด Enter
4. เลือกเซลล์ B2:B4 แล้วพิมพ์ 1/1/2002 แล้วกด Enter
5. พิมพ์ 1/6/2002 แล้วกด Enter
6. พิมพ์ 0 แล้วกด Enter
7. คลิกเซลล์ C3 แล้วพิมพ์ =days360(b2,b3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 150
8. คลิกเซลล์ C4 แล้วพิมพ์ 360
9. คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =yearfrac(b2,b3,b4) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.416667
10. คลิกเซลล์ C6 พิมพ์ =c3/c4 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.416667
11. ทดลองแก้ไขตัวเลขที่เซลล์ B4 เป็น 1 หรือ 2 หรือ 3 แล้วกำหนดตัวเลขที่เซลล์ C4 เป็น 365 เพื่อดูผลที่เกิดจากการคำนวณ
YearFrac จัดเป็นฟังก์ชันด้าน วันที่และเวลาของ Excel
ฟังก์ชัน YearFrac ทำหน้าที่ คำนวณเศษส่วนของปีที่แสดงด้วยจำนวนเต็มของวัน ระหว่างวันที่สองวันที่ (Start_date และ End_date) ให้เราใช้ฟังก์ชันของแผ่นงาน YearFrac ในการหาสัดส่วนของผลกำไรหรือข้อผูกมัดของทั้งปีเพื่อกำหนดให้ระยะเวลาที่ระบุไว้
รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน YearFrac คือ YearFrac(start_date,end_date,basis)
โดยที่พารามิเตอร์แต่ละตัวมีความหมายดังนี้
start_date คือวันที่ที่ใช้แทนวันที่เริ่มต้น
end_date คือวันที่ที่ใช้แทนวันที่สิ้นสุด
basis คือชนิดของหลักเกณฑ์ในการนับจำนวนวัน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องได้แก่ Edate, Emonth, Networkdays, Now, Workday
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน YearFrac
1. เลือกเซลล์ A2:A4 แล้วพิมพ์ Start Date แล้วกด Enter
2. พิมพ์ End Date แล้วกด Enter
3. พิมพ์ Basis แล้วกด Enter
4. เลือกเซลล์ B2:B4 แล้วพิมพ์ 1/1/2002 แล้วกด Enter
5. พิมพ์ 1/6/2002 แล้วกด Enter
6. พิมพ์ 0 แล้วกด Enter
7. คลิกเซลล์ C3 แล้วพิมพ์ =days360(b2,b3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 150
8. คลิกเซลล์ C4 แล้วพิมพ์ 360
9. คลิกเซลล์ B6 แล้วพิมพ์ =yearfrac(b2,b3,b4) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.416667
10. คลิกเซลล์ C6 พิมพ์ =c3/c4 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.416667
11. ทดลองแก้ไขตัวเลขที่เซลล์ B4 เป็น 1 หรือ 2 หรือ 3 แล้วกำหนดตัวเลขที่เซลล์ C4 เป็น 365 เพื่อดูผลที่เกิดจากการคำนวณ