ฟังก์ชัน YIELDMAT และวิธีการใช้งาน
ฟังก์ชัน YIELDMAT เป็นฟังก์ชันประเภทการเงิน
ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าผลตอบแทนต่อปีของหลักทรัพย์ที่จ่ายดอกเบี้ย ณ วันครบกำหนด
รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน YIELDMAT คือ YIELDMAT(settlement,maturity,issue,rate,pr,basis)
โดยที่ค่าพารามิเตอร์แต่ละตัวมีความหมายดังนี้
Settlement คือวันที่ทำข้อตกลงของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่ส่งมอบหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ
maturity คือวันที่ครบกำหนดชำระของหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือวันที่หลักทรัพย์หมดอายุลงนั่นเอง
issue คือวันที่ออกจำหน่ายของหลักทรัพย์ซึ่งแสดงอยู่ในรูปแบบหมายเลขอนุกรมของวันที่
rate คืออัตราดอกเบี้ยของหลักทรัพย์ ณ วันออกจำหน่าย
pr คือ ราคาของหลักทรัพย์ต่อมูลค่าตามตราสาร 100 ดอลล่าร์
basis คือชนิดของหลักเกณฑ์ในการนับจำนวนวัน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องได้แก่ Date, Pricemat
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน YIELDMAL
1. เลือกเซลล์ A2:A7 แล้วพิมพ์ Settlement Date แล้วกด Enter พิมพ์ Maturity Date แล้วกด Enter พิมพ์ ISSUE แล้วกด Enter พิมพ์ Rate แล้วกด Enter พิมพ์ Pr แล้วกด Enter พิมพ์ Basis แล้วกด Enter
2. เลือกเซลล์ A9:A12 แล้วพิมพ์ DIM แล้วกด Enter พิมพ์ DIS แล้วกด Enter พิมพ์ DSM แล้วกด Enter พิมพ์ A แล้วกด Enter
3. เลือกเซลล์ B2:B7 แล้วพิมพ์ 15/2/2001 แล้วกด Enter พิมพ์ 3/11/2001 แล้วกด Enter พิมพ์ 8/11/2000 แล้วกด Enter พิมพ์ 5.25% แล้วกด Enter พิมพ์ 98.75 แล้วกด Enter พิมพ์ 2 แล้วกด Enter
4. คลิกเซลล์ B9 แล้วพิมพ์ =b3-b4 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 25/12/1900 จากนั้นให้คลิกที่เมนู Edit เลือกคำสั่ง Clear แล้วคลิกที่ Formats จะแสดงผล 360
5. คลิกเซลล์ B10 แล้วพิมพ์ =b2-b4 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 8/4/1900 จากนั้นให้คลิกที่เมนู Edit เลือกคำสั่ง Clear แล้วคลิกที่ Formats จะแสดงค่า 99
6. คลิกเซลล์ B11 แล้วพิมพ์ =b3-b2 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 17/9/1900 จากนั้นให้คลิกที่เมนู Edit แล้วเลือกคำสั่ง Clear แล้วคลิกที่ Formats จะแสดงค่า 261
7. คลิกเซลล์ B12 แล้วพิมพ์ 360
8. คลิกเซลล์ B14 แล้วพิมพ์ =((100+b9/b12*b5*100)/(b6+b10/b12*b5*100)-1)*b12/b11 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.069607
9. คลิกเซลล์ B16 แล้วพิมพ์ =yieldmat(b2,b3,b4,b5,b6,b7) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.069607