วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การตั้งชื่อให้ Cells ใน Microsoft Excel เพื่อความสะดวกในการถึง

Cells บน Microsoft Excel ปกติแต่ละช่อง Cells จะมีชื่อเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น   A1,B1,C1,A2,C3,C4,D5,D3 อะไรประมาณนี้ เราจะท... thumbnail 1 summary

Cells บน Microsoft Excel ปกติแต่ละช่อง Cells จะมีชื่อเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น  A1,B1,C1,A2,C3,C4,D5,D3 อะไรประมาณนี้ เราจะทราบได้อย่างไรว่าเซลล์นั้นชื่อว่าอะไร  ทำได้ง่ายๆดังนี้คือ
ให้เราเลื่อน  Mouse ไปคลิ้กที่เซลล์ใดๆ แล้วมองขึ้นไปด้านบนทางซ้ายมือ ในช่องขาวๆจะมีชื่อบวกว่าเราอยู่ช่องไหน ซึ่ง มันก็คือ ชื่อของเซลล์นั้นเอง ชื่อของเซลล์มีประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกให้เราทราบว่าตอนนี้เราทำงานอยู่ในช่องเซลล์ชื่อช่องอะไร และประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็เช่นเอาไปใช้ในการอ้างถึงเวลาเราใช้เซลล์กับสูตร ต่างๆที่ Excel มีมาให้ อย่างเช่น เราจะใช้ สูตร หาผลรวมของตัวเลข สมมุตว่าเรามีตัว อยู่ในช่อง cells A1 =100 Cell, b1=100 และเราก็ต้องการให้ Microsoft Excel คำนวณแล้วใส่ผลบวกไว้ที่ช่อง c1 เราก็พิมพ์ที่ช่อง C1 ว่า =sum (a1:b1)  จะเห็นว่าเราได้ทำการบอก Microsoft Excel ว่า เราจะบวกค่า ที่อยู่ที่ช่อง a1 จนถึง b1 แล้วเก็บไว้ในช่องที่เราพิมพ์สูตร ในที่นี้คือ ช่อง C1 ซึ่ง ผลรวมก็คือ 200 เอาไว้  ถ้าเราไม่ทราบว่าแต่ละเซลล์ชื่ออะไร คงเป็นการยากที่จะใช้สูตรได้สะดวก เพราะว่า Excel คือ โปรแกรมตารางคำนวณ มีช่อง เป็น หมื่นๆช่อง
ชื่อของเซลล์ที่เรากล่าวมาแล้วนั้น อย่างเช่น  a1, b1 เป็นชื่อที่ Microsoft Excel ตั้งมาให้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนไปเป็นชื่ออื่นๆเราก็สามารถทำได้ อย่างไม่ยากเย็นนัก  ยกตัวอย่างเช่น เราจะเปลี่ยนชื่อ Cells จาก Cells a1 ไปเป็น ชื่อ firstnumber  เราสามารถทำได้ดังนี้ คือ ให้เราเลือกที่เซลล์ a1 แล้ว คลิ้กขวา แล้วเลือกคำสั่ง “กำหนดชื่อ...”  กล่องสำหรับการกำหนดชื่อใหม่ก็จะปรากฏขึ้นมา  ที่ช่อง ชื่อ เราก็ใส่คำว่า fristnumber เข้าไป, ที่ช่อง ขอบเขต เราก็เลือกว่าจะ ให้ชื่อที่เรากำหนดใช้ได้ภายในสมุดงานนี้หรือไม่ หรือ ใช้ได้แค่เฉพาะ sheet ใด sheet หนึ่ง ส่วนช่อง  อ้างอิงไปยัง  ในที่นี้คือ เซลล์ a1 ถ้าตรงช่อง ขอบเขต เราเลือก เป็น แผ่นงาน(Worksheet) ตรงช่อง อ้างอิงไปถึง จะปรากฤข้อความ =Sheet1!$A$1(sheet1 คือ แผ่นงานที่1 ถ้าเราเลือกแผ่นงานอื่นมันก็จะขึ้นเป็น sheet อื่นๆตามที่เลือก) เมื่อเรากำหนดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมจะนำชื่อนี้ไปใช้ในการคำนวณได้แล้วละครับ เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น เรามาลองดูตัวอย่าง กันสักหน่อยเถอะ  ให้ทำตามดังต่อไปนี้
·      เปิด Ms Excel ขึ้นมา
·      พิมพ์ 100 ที่ช่อง a1
·      พิมพ์ 1000 ที่ช่อง b1
·      พิมพ์ 2000 ที่ช่อง c1
·      พิมพ์ 400 ที่ช่อง D1
·      พิมพ์ 500 ที่ช่อง E1
·      พิมพ์ 5000 ที่ช่อง F1
·      พิมพ์ 1200 ที่ช่อง G1
·      ใช้ Mouse เลือกที่เซลล์ a1 ถึง เซลล์ g1
·      คลิ้กขวาที่เซลล์ที่เลือกแล้วเลือกคำสั่ง กำหนดชื่อ…”
·      ที่ช่องชื่อ ตั้งชื่อว่า mynumber
·      ที่ช่อง ขอบเขต เลือก “แผ่นงาน(1)” หรือ sheet1
·      ที่ช่อง อ้างอิงไปยัง จะปรากฏเป็น =Sheet1!$A$1:$G$1
·      คลิ้กที่ปุ่ม ตกลง
·         ที่ช่อง h1 พิมพ์ =SUM(mynumber)
·      กด enter จะได้ผลรวมเป็นผลบวกตั้งแต่เซลล์ a1 ถึง g1 ซึ่งคำตอบที่ได้คือ 10200
จะเห็นว่า การกำหนดชื่อเซลล์สามารถ เลือกหลายๆเซลล์แล้วกำหนดให้เป็นชื่อเดียวได้ด้วย ซึ่งทำให้สะดวกมากเวลาอ้างถึง และถ้าเราตั้งชื่อให้ดีๆ ให้สื่อความหมายแล้วด้วย มันก็จะสะดวกกว่าและดีกว่า อ้างถึง เซลล์ที่เป็น a1,b1,c1 เสียอีก เพราะชื่อเหล่านี้มันไม่สื่อความหมายเลย ในตัวอย่างเราตั้งชื่อว่า mynumber ซึ่งก็สื่อความหมายได้ดี เพราะเราใส่ข้อมูลที่เป็นตัวเลขเข้าไปทั้งนั้นเลยใน เซลล์นี้ หรือ จะตั้งเป็นชื่ออื่นก็ได้ อย่างเช่น mymoney หรือ ชื่ออื่นๆ ตามแต่งาน หรือ ขึ้นกับว่า ข้อมูลในเซลล์เป็นอะไร เป็นต้น
วันนี้ก็ขอจบบทความเรื่อง การตั้งชื่อเซลล์ไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วกัน แล้วพบกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ ถ้าชอบก็ช่วยกดแชร์ด้วยน่ะครับ....