วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Microsoft Excel 2010 : ฟังก์ชั่น GROWTH

ประเภทของฟังก์ชั่น ฟังก์ชั่น GROWTH จัดเป็น ฟังก์ชั่นทางสถิติ หน้าที่รับผิดชอบของฟังก์ชั่น GROWTH คือมีหน้าที่คำนวณหาค่าการเติบโตของ Expo... thumbnail 1 summary
ประเภทของฟังก์ชั่น ฟังก์ชั่น GROWTH จัดเป็น ฟังก์ชั่นทางสถิติ

หน้าที่รับผิดชอบของฟังก์ชั่น GROWTH คือมีหน้าที่คำนวณหาค่าการเติบโตของ Exponential โดยการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ ฟังก์ชั่น GROWTH จะส่งกลับค่า Y สำหรับชุดข้อมูลของค่า x ใหม่ที่คุณระบุด้วยการใช้ค่า x และค่า y ที่มีอยู่ คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นแผ่นงาน GROWTH มาใช้ให้เหมาะสมกับเส้นโค้ง Exponential ของค่า x และค่า y ที่มีอยู่

รูปแบบสูตรของฟังก์ชั่น GROWTH คือ GROWTH(known_y’s,known_x’s,new_x’s,const)

Known_y’s คือชุดของค่า y ที่คุณทราบความสัมพันธ์ y=b*m^x แล้วถ้าอาร์เรย์ known_y’s อยู่ในคอลัมน์เดียว แต่ละคอลัมน์ของ known_x’s จะถูกแปลงเป็นตัวแปรแยกต่างหาก

ถ้าอาร์เรย์ known_y’s อยู่ในแถวเดียว แต่ละแถวของ known_x’s จะถูกแปลงเป็นตัวแปรแยกต่างหาก

ถ้าตัวเลขใดๆ ใน know_y’s เป็นศูนย์หรือค่าลบ GROWTH จะส่งกลับ #NUM! เป็นค่าความผิดพลาด

Known_x’s คือชุดของค่า x ที่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ซึ่งเป็นค่าที่คุณทราบความสัมพันธ์ y=b*m^x แล้ว

อาร์เรย์ known_x’s อาจประกอบด้วยชุดของตัวแปรหนึ่งชุดหรือมากกว่ากรณีที่มีการใช้ตัวแปรเพียงตัวแปรเดียว อาร์เรย์ known_y’s และ known_x’s อาจจะเป็นช่วงที่มีรูปร่างแบบใดก็ได้ ตราบใดที่ยังมีขนาดอาร์เรย์เท่ากันอยู่ แต่กรณีที่มีการใช้ตัวแปรมากกว่าหนึ่งตัวแปร known_y’s ต้องเป็นแบบเวกเตอร์ (ซึ่งหมายความว่า ต้องเป็นช่วงที่มีความสูงหนึ่งแถวหรือความกว้างหนึ่งคอลัมน์)

กรณีที่ไม่ได้ใส่ค่าอาร์เรย์ known_x’s อาร์เรย์จะถูกกำหนดเป็นอาร์เรย์ {1,2,3,…} ที่มีขนาดเท่ากับอาร์เรย์ known_y’s

New_x’s เป็นค่า x ที่คุณต้องการให้ GROWTH ส่งค่า y ที่เป็นไปตามสมการ y=b*m^x กลับ

New_x’s จะต้องมีหนึ่งคอลัมน์ (หรือแถว) สำหรับตัวแปรอิสระแต่ละตัว เช่นเดียวกับ known_x’s ดังนั้น ถ้า know_y’s อยู่ในคอลัมน์เดี่ยว known_x’s และ new_x’s จะต้องมีจำนวนคอลัมน์เท่ากัน ถ้า known_y’s อยู่ในแถวเดี่ยว known_x’s และ new_x’s จะต้องมีจำนวนแถวเท่ากัน

ถ้าค่า new_x’s ถูกละไว้ จะถือว่าเป็นค่าเดียวกับ known_x’s

ถ้าทั้ง known_x’s และ new_x’s ถูกละไว้ จะถือว่าเป็นอาร์เรย์ {1,2,3,…} ซึ่งมีขนาดเดียวกันกับ known_y’s

Const คือค่าตรรกะที่ใช้ระบุว่าจะบังคับให้ค่าคงที่เท่ากับ 1 หรือไม่

กรณีที่ค่า const เป็น TRUE หรือละไว้ b จะถูกคำนวณตามวิธีปกติ

ถ้า Const เป็น FALSE จะตั้ง b ให้เท่ากับ 1 และจะปรับค่า m เพื่อให้ y=m^x

ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชั่น GROWTH ได้แก่ LINEST,LOGEST, TREND

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น GROWTH บน Microsoft Excel

• ระบายเซลล์ A1:A6 แล้วพิมพ์ X แล้วกด Enter พิมพ์ 1 แล้วกด Enter พิมพ์ 2 แล้วกด Enter พิมพ์ 3 แล้วกด Enter พิมพ์ 4 แล้วกด Enter พิมพ์ 5 แล้วกด Enter

• ระบายเซลล์ B1:B6 แล้วพิมพ์ Y แล้วกด Enter พิมพ์ 8 แล้วกด Enter พิมพ์ 6 แล้วกด Enter พิมพ์ 9 แล้วกด Enter พิมพ์ 12 แล้วกด Enter พิมพ์ 24 แล้วกด Enter

• ระบายเซลล์ A1:B6 แล้วสร้างกราพเส้น

• คลิกที่จุดของกราฟ แล้วคลิกเมนู Chart แล้วเลือกคำสั่ง AddTrendline จากนั้นเลือกรูปแบบที่ต้องการ

• คลิกแท็บ Options แล้วเลือก Display equation on chart แล้วคลิกเลือก OK จะโชว์ y=4.3893e0.289x

• กำหนดรูปแบบ Number เป็น #,##0.0000000 แล้วคลิกปุ่ม OK จะแสดงเป็น y=4.3892821e0.2890372x

• คลิกที่เซลล์ A11 แล้วพิมพ์ 6

• คลิกเซลล์ B11 แล้วพิมพ์ =4.3892821*exp(0.2890372*a11) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 24.8632

• ระบายเซลล์ A8:B8 แล้วพิมพ์ =logest(b2:b6,a2:a6) จากนั้นกด Ctrl+Enter จะเห็นเซลล์ A8 จะแสดงค่า 1.335141 ส่วนเซลล์ B8 จะแสดงค่า 4.389282

• คลิกเซลล์ A2 พิมพ์ 6 แล้วคลิกที่ B12 แล้วพิมพ์ =b8*a8^a12 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 24.8632

• คลิกเซลล์ A13 พิมพ์ 6 แล้วคลิก B13 แล้วพิมพ์ =growth(b2:b6,a2:a6,a13) แล้วกด enter จะแสดงค่า 24.8632