วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Excel กับ 10 ฟังก์ชั่นที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

1.     Excel กับ ฟังก์ชั่น AVERAGE AVERAGE คือ ฟังก์ชั่น สถิติ ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของอาร์กิวเมนต์ทั้งหมด... thumbnail 1 summary


1.    Excel กับ ฟังก์ชั่น AVERAGE
AVERAGE คือ ฟังก์ชั่น สถิติ ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของอาร์กิวเมนต์ทั้งหมด
สูตร AVERAGE(number1,number2,…)
Number1, number2, คือ อาร์กิวมนต์ 1 ถึง 30 อาร์กิวมนต์ที่เป็นตัวเลขซึ่งคุณต้องการหาค่าเฉลี่ย
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ AVEDEV, AVERAGEA, GEOMEAN, HARMEAN, MEDIAN, MODE, TRIMMEAN
ตัวอย่างการใช้สูตร AVERAGE บน Excel
ที่ Excel ระบายเซลล์ B2:B5 แล้วพิมพ์ 2 และกด Enter
ที่ Excel พิมพ์ 3และกด Enter แล้วพิมพ์ 4 แล้วกด Enter จากนั้นพิมพ์ 5 แล้วกด Enter
ที่ Excel คลิกเซลล์ B7 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b5)/count(b2:b5) และกด Enter จะโชว์ 3.5
คลิกเซลล์ B8 แล้วพิมพ์ =average(b2:b5) และกด Enter จะโชว์ 3.5
2.    Excel กับ ฟังก์ชั่น AVERAGEA
เป็นฟังก์ชั่น ประเภทสถิติ  ทำหน้าที่ คำนวณค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของค่าในรายการของอาร์กิวเมนต์ นอกเหนือจากตัวเลข ข้อความและค่าตรรกศาสตร์อย่างเช่น TRUE และ FALSE ก็รวมอยู่ในการคำนวณด้วย
สูตร AVERAGE บน Excel คือ AVERAGE(value,value2,…)
Value1, value, … คือเซลล์ 1 ถึง 30 เซลล์ (ช่วงของเซลล์) หรือ ค่าต่างๆ ที่ต้องการหาค่าเฉลี่ย
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ AVEDEV, AVERAGE
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น AVERAGEA
ที่ Excel ให้ระบายเซลล์ B2:B6 แล้วพิมพ์ 2 และกด Enter จากนั้นพิมพ์ 3 และกด Enter
ที่ Excel พิมพ์ 4 และกด Enter แล้วพิมพ์ 5 และกด Enter จากนั้นพิมพ์ 9 และกด Enter
ที่ Excel คลิกเซลล์ B8 แล้วพิมพ์ =average(b2:b6) และกด Enter จะโชว์ 4.6
ที่ Excel หากคลิกเซลล์ B4 แล้วพิมพ์ true และกด Enter ที่เซลล์ B8 จะโชว์ 4.75
ที่ Excel คลิกเซลล์ B9 แล้วพิมพ์ =average(b2:b6) และกด Enter จะโชว์ 4
ที่ Excel ให้เคลื่อนย้ายข้อมูลในเซลล์ B8:B9 ไปที่ เซลล์ F8
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B8 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b6) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 19
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B9 แล้วพิมพ์ =count(b2:b6) แล้วกด Enter จะโชว์ 4
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B10 แล้วพิมพ์ =b8/b9 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 4.75
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ c8 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b6)+1 แล้วกด Enter จะได้ผลลัพธ์เป็น 20
ที่ Excel คลิกที่เซลล์ C9 แล้วพิมพ์ =counta(b2:b6) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5
ที่ Excel คลิกเซลล์ C10 แล้วพิมพ์ c8/c9 แล้วกด Enter จะโชว์ 4
3.    Excel กับ ฟังก์ชั่น BAHTTEXT
BAHTTEXT เป็น Function ประเภท ข้อความ บน Excel ทำหน้าที่ ส่งกลับอักขระซึ่งถูกระบุโดยตัวเลข โดยฟังก์ชั่น BAHTTEXT มีรูปแบบสูตร คือ BAHTTEXT(number)
โดยที่ number คือ ตัวเลขที่คุณต้องการแปลงเป็นข้อความ หรือจะเป็นการอ้างอิงไปยังเซลล์ ที่มีตัวเลขอยู่ หรือเป็นสูตรที่ได้ประเมินค่าออกมาเป็นตัวเลขก็ได้
บน Excel คลิกที่เซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 1234.5 แล้วกด Enter
บน Excel คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =bahttext(a2) แล้วกด Enter
บน Excel คลิกที่เซลล์ B2 แล้วเลือกรูปแบบตัวหนังสือเป็น AngsanaUPC แล้วเลือกขนาด 14 Point จากนั้นคลิก OK จะเห็นที่หน้าจอโชว์ หนึ่งพันสองร้อยสามสิบสี่บาทห้าสิบสตางค์
บน Excel คลิกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ 101 แล้วคลิกที่เซลล์ A4 แล้วพิมพ์ 21
จากนั้น Auto Fill สูตรจากเซลล์ B2 ลงมาที่เซลล์ B4

4.    Excel กับฟังก์ชั่น BESSELI
BESSELI เป็นฟังก์ชั่น วิศวกรรม ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าฟังก์ชั่น BESSEI ที่ปรับเปลี่ยนแล้วซึ่งจะเท่ากับ ฟังก์ชั่น BESSEL ที่ประเมินไว้สำหรับเฉพาะอาร์กิวเมนต์จินตภาพอย่างแท้จริง
รูปแบบสูตรของฟังก์ชั่น คือ BESSELI(x,n)
โดยที่ x คือค่าซึ่งใช้ประเมินฟังก์ชั่น
และ n คือ ลำดับที่ของฟังก์ชั่น BESSEL หากค่า n ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็จะถูกตัดเศษทศนิยมทิ้ง
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องคือ BESSELJ, BESSELK, BESSELY
ตัวอย่างการใช้งาน ฟังก์ชั่น BESSELI บน Excel ให้ทำดังนี้
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =besseli(2,2) และกด Enter จะโชว์ 0.688948
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B3 แล้วพิมพ์ =besseli(2,3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.21274
5.    Excel กับฟังก์ชั่น BESSELJ
BESSELJ เป็นฟังก์ชั่นประเภท วิศวกรรม ทำหน้าที่ส่งกลับค่าของฟังก์ชั่น Bessel โดยที่ BESSELJ มีรูปแบบดังนี้ BESSELJ(x,n)
โดยที่ x คือค่าซึ่งใช้ประเมินฟังก์ชั่น
และ n คือลำดับที่ของฟังก์ชั่น Bessel หากค่า n ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็จะถูกจตัดเศษทศนิยมทิ้ง
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องก็ได้แก่ BESSELI, BESSELK, BESSELY
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น BESSELJ บน Excel ทำได้ดังนี้
บน Excel ให้คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =besselj(2,3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.128943 ออกมา
6.    Excel กับฟังก์ชั่น BESSELK
BESSELK เป็นฟังก์ชั่นประเภท วิศวกรรม ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าของฟังก์ชั่น Bessel ที่ถูกปรับเปลี่ยนแล้ว ซึ่งจะเท่ากับฟังก์ชั่น Bessel ที่ประเมินไว้สำหรับอาร์กิวเมนต์จินตภาพอย่างแท้จริง
รูปแบบสูตรของฟังก์ชั่นคือ BESSELK(x,n)
โดยที่ x คือ ค่าซึ่งใช้ประเมินฟังก์ชั่น
และ n คือลำดับที่ของฟังก์ชั่น หากค่า  n ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็จะถูกตัดเศษทศนิยมทิ้ง
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ BESSELI, BESSELJ, BESSELY
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น BESSELK บน Excel
ที่ Excel ให้เราคลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =besselk(2,3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.647385
7.    Excel กับฟังก์ชั่น BESSELY
BESSELY เป็นฟังก์ชั่นประเภท วิศวกรรม  ทำหน้าที่ส่งกลับฟังก์ชั่น Bessel ซึ่งจะเรียกว่าฟังก์ชั่นเวเบอร์ (Weber) หรือ ฟังก์ชั่นนอยมัน์ (Neumann) ก็ได้
รูปแบบสูตร ของฟังก์ชั่น BESSELY คือ BESSELY(x,n)
โดยที่ x คือค่าซึ่งใช้ประเมินฟังก์ชั่น
และ n คือ ลำดับที่ของฟังก์ชั่น หากค่า n ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็จะถูกตัดเศษทศนิยมทิ้ง
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องคือ BESSELI, BESSELJ, BESSELK
ตัวอย่างการใช้ ฟังก์ชั่น BESSELY บน Excel
บน Excel ให้คลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =BESSELY(3.5,2) และกด Enter จะแสดงผลลัพธ์เป็น 0.045271
8.    Excel กับฟังก์ชั่น BETADIST
BETADIST เป็นฟังก์ชั่นทางสถิติของ Excel
ทำหน้าที่ ส่งกลับค่าการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบเบต้าสะสม (cumulative beta probability function) โดยทั่วไปแล้วจะใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อศึกษาค่าความผันแปรในระดับเปอร์เซ็นต์ของค่าบางค่าที่มีต่อตัวอย่าง เช่น จำนวนชั่วโมงในหนึ่งวันที่คนใช้ในการดูโทรทัศน์
รูปแบบสูตรของ Function คือ BETADIST(x,alpha,beta,A,B)
โดยที่ X คือ ค่าระหว่าง A และ B ที่ใช้ในการประเมินหาค่าการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบเบต้าสะสม (cumulative beta probability function)
Alpha คือ พารามิเตอร์ของการแจกแจง
A คือ ขอบต่ำสุดในช่วงของ x (ใส่หรือไม่ก็ได้)
B คือ ขอบสูงสุดในช่วงของ x (ใส่หรือไม่ก็ได้)
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องคือ BETAINV
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น BETADIST บน Excel
บน Excel ให้เราคลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =betadist(3,8,10,15) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.685471
บน Excel หากเรากำหนดสูตรเป็น =betadist(6,8,10,1,5) แล้วกด Enter จะโชว์ #NUM!
9.    Excel กับฟังก์ชั่น BETAINV
BETAINV เป็นฟังก์ชั่น ประเภท สถิติ ของ Excel มีหน้าที่ ส่งกลับค่าผกผันของการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบเบต้าสะสม (Cumulative beta probability density function) นั่นคือ ถ้า probability = BETADIST(x,…) แล้ว BETAINV(probability,…) = x การแจกแจงเบต้าสะสมสามารถใช้ในการวางแผนโครงการเพื่อจำลองเวลาในการทำงานแล้วเสร็จที่เป็นไปได้ เมื่อทราบเวลาในการทำงานแล้วเสร็จโดยเฉลี่ยและความแปรปรวน
รูปแบบสูตร ของฟังก์ชั่น BETAINV(probability, alpha, beta, A,B)
Probability คือ ความน่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับการแจกแจงแบบเบต้า
Alpha คือ พารามิเตอร์ของการแจกแจง
Beta คือ พารามิเตอร์ของการแจกแจง
A คือ ขอบต่ำสุดในช่วง x (ใส่หรือไม่ก็ได้)
B คือ ขอบสูงสุดในช่วงของ x (ใส่หรือไม่ก็ได้)
ตัวอย่างการใช้งาน ฟังก์ชั่น BETAINV ทำได้ดังนี้
บน Excel คลิกเซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =betainv(0.6854706,8,10,1,5) และกด Enter จะโชว์ 3
10.                       Excel กับฟังก์ชั่น BIN2DEC
BIN2DEC เป็นฟังก์ชั่นประเภท วิศวกรรม บน Excel ทำหน้าที่ แปลงตัวเลขฐานสองให้เป็นตัวเลขฐานสิบ รูปแบบสูตรของ BIN2DEC คือ BIN2DEC(number)
โดยที่ number คือตัวเลขฐานสองที่ต้องการแปลง และต้องมีตัวเลขไม่เกิน 10 อักขระ (10 บิต) ซึ่งบิตที่มีนัยสำคัญที่สุดคือบิตเครื่องหมาย ส่วนบิตที่เหลืออีก 9บิตคือบิตขนาด โดยจะแสดงค่าตัวเลขติดลบด้วยสัญกรณ์เติมเต็มฐานสอง
รูปแบบฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง คือ DEC2BIN, HEX2BIN, OCT2BIN
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่น BIN2DEC บน Excel
ที่ Excel ให้คลิกเซลล์ A2 แล้วพิมพ์ 1111 จากนั้นคลกเซลล์ A3 แล้วพิมพ์ 1010
ที่ Excel คลิกที่เซลล์ B2 แล้วพิมพ์ =bin2dec(a2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 15 สำหรับวิธีการคำนวณจะทำได้ดังต่อไปนี้ 1x20+1x21+0x22+1x23
ที่ Excel ให้คลิกที่เซลล์ B3 แล้วพิมพ์ =bin2dec(a3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 10 สำหรับวิธีการคำนวณ จะทำดังนี้
0x20+1x21+0x22+1x23