วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ฟังก์ชัน Subtotal และวิธีการใช้งาน

ฟังก์ชัน Subtotal และวิธีการใช้งาน (How to use Subtotal function) Subtotal คือ ฟังก์ชันที่ปรากฏอยู่ใน Excel 2003 , Excel 2007 , Excel 201... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน Subtotal และวิธีการใช้งาน
(How to use Subtotal function)
Subtotal คือ ฟังก์ชันที่ปรากฏอยู่ใน Excel 2003, Excel 2007, Excel 2010 เป็นฟังก์ชัน หาผลร่วมตัวหนึ่งของ Excel...วันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้งานฟังก์ชันนี้กัน ตั้งใจอ่านให้ดีน่ะจ๊ะ

Subtotal เป็นฟังก์ชัน ด้าน คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ

หน้าที่ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ ส่งกลับค่าผลรวมย่อยของรายการหรือฐานข้อมูล โดยทั่วไปแล้วเป็นการง่ายที่จะสร้างรายการพร้อมกับผลร่วมย่อย โดยการใช้คำสั่ง ผลรวมย่อย (ในเมนูข้อมูล) หลังจากสร้างรายการผลรวมย่อยแล้ว เราสามารถดัดแปลงโดยการแก้ไขที่ ฟังก์ชัน Subtotal

รูปแบบ สูตร Excel ของ ฟังก์ชัน Subtotal คือ Subtotal(function_num_ref1,ref2,…)
โดยที่ function_num คือตัวเลข 1 ถึง 11 ที่ใช้ระบุฟังก์ชันที่จะใช้สำหรับการคำนวณผลรวมย่อยในรายการ

ref1, ref2 คือ ช่วงหรือการอ้างอิงที่ 1 ถึง 29 ที่คุณต้องการค่าผลรวมย่อยให้ทดลองพิมพ์สูตรในโปรแกรม Excel ดังต่อไปนี้

1. เลือกเซลล์ B2:B8 จากนั้นพิมพ์ 100 แล้วกด Enter

2. พิมพ์ 200 แล้วกด Enter

3. พิมพ์ 350 แล้วกด Enter

4. พิมพ์ 250 แล้วกด Enter

5. พิมพ์ 450 แล้วกด Enter

6. พิมพ์ 360 แล้วกด Enter

7. พิมพ์ 420 แล้วกด Enter

8. เลือกเซลล์ D2:D12 จากนั้นพิมพ์ Average แล้วกด Enter

9. พิมพ์ Count แล้วกด Enter

10. พิมพ์ CountA แล้วกด Enter

11. พิมพ์ Max แล้วกด Enter

12. พิมพ์ Min แล้วกด Enter

13. พิมพ์ Product แล้วกด Enter

14. พิมพ์ Stdeve แล้วกด Enter

15. พิมพ์ StdeP แล้วกด Enter

16. พิมพ์ Sum แล้วกด Enter

17. พิมพ์ Var แล้วกด Enter

18. พิมพ์ VarP แล้วกด Enter

19. เลือกเซลล์ G1:G12 จากนั้นพิมพ์ Function Num แล้วกด Enter

20. พิมพ์ 1 แล้วกด Enter

21. พิมพ์ 2 แล้วกด Enter

22. พิมพ์ 3 แล้วกด Enter

23. พิมพ์ 4 แล้วกด Enter

24. พิมพ์ 5 แล้วกด Enter

25. พิมพ์ 6 แล้วกด Enter

26. พิมพ์ 7 แล้วกด Enter

27. พิมพ์ 8 แล้วกด Enter

28. พิมพ์ 9 แล้วกด Enter

29. พิมพ์ 10 แล้วกด Enter

30. พิมพ์ 11 แล้วกด Enter

31. คลิกเซลล์ E2 แล้วพิมพ์ =Average($b$2:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857

32. คลิกเซลล์ E3 แล้วพิมพ์ =count($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7

33. คลิกเซลล์ E4 แล้วพิมพ์ =counta($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 7

34. คลิกเซลล์ E5 แล้วพิมพ์ =max($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า จะแสดงค่า 450

35. คลิกเซลล์ E6 แล้วพิมพ์ =min($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 100

36. คลิกเซลล์ E7 แล้วพิมพ์ =product($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.1907E+17

37. คลิกเซลล์ E8 แล้วพิมพ์ =stdev($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 126.076319

38. คลิกเซลล์ E9 แล้วพิมพ์ =stdevp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 116.72399

39. คลิกเซลล์ E10 แล้วพิมพ์ =sum($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2130

40. คลิกเซลล์ E11 แล้วพิมพ์ =var($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 15895.2381

41. คลิกเซลล์ E12 แล้วพิมพ์ =varp($b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 13624.4898

42. คลิกเซลล์ H2 แล้วพิมพ์ =subtotal(g2,$b$:$b$8) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 304.2857 แล้ว Auto Fill สูตรลงมาที่เซลล์ H12 จะแสดงผลเหมือนกับช่วงเซลล์ E2:E12