วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฟังก์ชัน TTEST และการใช้งานบน Excel

ฟังก์ชัน TTEST ฟังก์ชัน TTEST จัดเป็นฟังก์ชัน ด้านสถิติ TTEST ทำหน้าที่ส่งกลับค่าความน่าจะเป็นที่ได้จากการทำ t-test(student) เราใช้ฟังก์ชัน... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน TTEST

ฟังก์ชัน TTEST จัดเป็นฟังก์ชัน ด้านสถิติ

TTEST ทำหน้าที่ส่งกลับค่าความน่าจะเป็นที่ได้จากการทำ t-test(student) เราใช้ฟังก์ชัน TTEST ในการกำหนดว่าตัวอย่างสองตัวอย่างมาจากกลุ่มประชากรที่เป็นพื้นฐานสองกลุ่มเดียวกันที่มีค่ามัชฌิมเดียวกัน

รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน TTEST คือ TTEST(array1,array2,tails, type)

array1 คือ ชุดข้อมูลชุดแรก

array2 คือ ชุดข้อมูลที่สอง

tails ระบุจำนวนทางการแจกแจงที่ต้องการให้ใช้ ถ้าต้องการใช้การแจกแจงแบบด้านเดียว ให้ใช้ tails =1 แล้วถ้าต้องการใช้การแจกแจงแบบสองด้านให้ใช้ tails = 2

type คือ ชนิดของการทำ t-test

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องได้แก่ TDIST, TINV

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน TTEST บน Excel

1. เลือกเซลล์ B2:B10 แล้วพิมพ์ 61.36 แล้วกด Enter พิมพ์ 57.76 แล้วกด Enter พิมพ์ 71.94 แล้วกด Enter พิมพ์ 61.77 แล้วกด Enter พิมพ์ 58.66 แล้วกด Enter พิมพ์ 71.61 แล้วกด Enter พิมพ์ 71.52 แล้วกด Enter พิมพ์ 58.67 แล้วกด Enter พิมพ์ 62.77 แล้วกด Enter

2. เลือกเซลล์ C2:C7 แล้วพิมพ์ 56.92 แล้วกด Enter พิมพ์ 58.3 แล้วกด Enter พิมพ์ 67.48 แล้วกด Enter พิมพ์ 53.96 แล้วกด Enter พิมพ์ 62 แล้วกด Enter พิมพ์ 59.61 แล้วกด Enter พิมพ์ 52.02 แล้วกด Enter พิมพ์ 61.6 แล้วกด Enter พิมพ์ 64.83 แล้วกด Enter พิมพ์ 58.55 แล้วกด Enter พิมพ์ 52.53 แล้วกด Enter พิมพ์ 64.74 แล้วกด Enter พิมพ์ 55.51 แล้วกด Enter พิมพ์ 66.18 แล้วกด Enter พิมพ์ 55.51 แล้วกด Enter พิมพ์ 54.18 แล้วกด Enter

3. เลือกเซลล์ A18:A22 แล้วพิมพ์ mean แล้วกด Enter พิมพ์ std แล้วกด Enter พิมพ์ var แล้วกด enter พิมพ์ n แล้วกด enter พิมพ์ var/n แล้วกด Enter พิมพ์ L22^2/(n-1) แล้วกด Enter พิมพ์ Sp แล้วกด Enter พิมพ์ t แล้วกด Enter พิมพ์ df แล้วกด Enter

4. คลิกเซลล์ B18 แล้วพิมพ์ =average(b2:b10) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 64.00667 จากนั้นคลิกเซลล์ C18 แล้วพิมพ์ =average(C2:C17) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 58.995

5. คลิกเซลล์ B19 แล้วพิมพ์ =stdev(b2:b10) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5.987729 จากนั้นคลิกเซลล์ C19 แล้วพิมพ์ =stdev(c2:c17) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5.000836

6. คลิกเซลล์ B20 แล้วพิมพ์ =b19^2 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 35.8529 จากนั้นคลิกเซลล์ C20 แล้วพิมพ์ =c19^2 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 25.00836

7. คลิกเซลล์ B21 แล้วพิมพ์ =count(b2:b10) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 9 จากนั้นคลิกเซลล์ C21 แล้วพิมพ์ =count(c2:c17) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 16

8. คลิกเซลล์ B22 แล้วพิมพ์ =b20/b21 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 3.983656 จากนั้นคลิกเซลล์ C22 แล้วพิมพ์ =c20/c21 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.563022

9. คลิกเซลล์ B23 แล้วพิมพ์ =b22^2(b21-1) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 1.983689 จากนั้นคลิกเซลล์ C23 แล้วพิมพ์ =c22^2/(c21-1) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.162869

10. คลิกเซลล์ B24 แล้วพิมพ์ =sqrt((8*b20+15*c20)/23) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 5.364734

11. คลิกเซลล์ B25 แล้วพิมพ์ =(b18-c18)/(b24*sqrt(1/b21+1/c21)) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2.24205 จากนั้นคลิกเซลล์ C25 แล้วพิมพ์ =(b18-c18)/sqrt(b20/b21+c20/c21) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 2.127971

12. คลิกเซลล์ B26 แล้วพิมพ์ =b21+c21-2 แล้วกด Enter จะแสดงค่าเป็น 23 จากนั้นคลิกเซลล์ C26 แล้วพิมพ์ =(b22+c22)^2(b23+c23) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 14.33254

13. คลิกเซลล์ B27 แล้วพิมพ์ =tdist(b25,b26,2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.034897 จากนั้นคลิกเซลล์ C27 แล้วพิมพ์ =tdist(c26:c26,2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.051588

14. คลิกเซลล์ B29 แล้วพิมพ์ =ttest(b2:b10,c2:c17,2,2) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.034897

15. คลิกเซลล์ C29 แล้วพิมพ์ =ttest(b2:b10,c2:c17,2,3) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 0.05115