วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟังก์ชัน VARPA และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

ฟังก์ชัน VARPA และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010) VARPA เป็นฟังก์ชันประเภทสถิติ ทำหน้าที่ คำนวณหาค่าความแปรปรวนจากประชากรทั้งหมด โดยให้รวม... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชัน VARPA และตัวอย่างการใช้งาน (Excel 2010)

VARPA เป็นฟังก์ชันประเภทสถิติ ทำหน้าที่ คำนวณหาค่าความแปรปรวนจากประชากรทั้งหมด โดยให้รวมข้อความและค่าตรรกศาสตร์ เช่น TRUE และ FALSE ในการคำนวณด้วย

รูปแบบ สูตร Excel ของฟังก์ชัน VARPA คือ VARPA(value1,value2,…)

โดยที่ value1, value2, … คืออาร์กิวเมนต์ค่า 1 ถึง 30 อาร์กิวเมนต์ที่ได้มาจากประชากร

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง เช่น DVAR, DVARP, VARA

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน VARA

1. เลือกเซลล์ B1:B9 แล้วพิมพ์ X จากนั้นกด Enter พิมพ์ 10 จากนั้นกด Enter พิมพ์ 50 จากนั้นกด Enter พิมพ์ TRUE จากนั้นกด Enter พิมพ์ 60 แล้วกด Enter พิมพ์ 45 แล้วกด Enter พิมพ์ 60 แล้วกด Enter พิมพ์ 70 แล้วกด Enter พิมพ์ 55 แล้วกด Enter

2. คลิกเซลล์ A10 แล้วพิมพ์ Sum แล้วคลิกเซลล์ A11 พิมพ์ N จากนั้นคลิกเซลล์ A13 แล้วพิมพ์ Varpa Calc แล้วคลิกเซลล์ A15 จากนั้นพิมพ์ว่า Varpa Function

3. คลิกเซลล์ C1 แล้วพิมพ์ X^2 จากนั้นระบายเซลล์ C2:C9 จากนั้นพิมพ์ =b2^2 แล้วกด Ctrl+Enter จะแสดงผลให้เห็น

4. คลิกเซลล์ B10 แล้วพิมพ์ =sum(b2:b9)+1 แล้วกด Enter จะแสดงค่า 351 หากมีข้อความที่เป็น FALSE หรือข้อความอื่นไม่ต้องพิมพ์สูตรเป็น +1 เพิ่มเข้าไป

5. คลิกเซลล์ C10 จากนั้นดับเบิ้ลคลิกปุ่ม Auto Sum จะได้ผลเป็น 19751

6. คลิกเซลล์ B11 แล้วพิมพ์ =counta(b2:b9) และกด Enter จะแสดงค่า 8

7. คลิกเซลล์ B13 แล้วพิมพ์ =(b11*c10-b10^2)/b11^2 แล้วกด Enterจะแสดงค่า 543.8594

8. คลิกเซลล์ B15 แล้วพิมพ์ =varpa(b2:b9) แล้วกด Enter จะแสดงค่า 543.8594