วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Excel Formulas : ฟังก์ชั่น LINEST

ฟังก์ชั่น LINEST เป็นฟังก์ชั่นประเภทสถิติ หน้าที่ของฟังก์ชั่น LINEST คือ คำนวณหาสถิติสำหรับเส้นตรงโดยการใช้วิธีกำลังสองน้อยที่สุด เพื่อค... thumbnail 1 summary
ฟังก์ชั่น LINEST เป็นฟังก์ชั่นประเภทสถิติ


หน้าที่ของฟังก์ชั่น LINEST คือ คำนวณหาสถิติสำหรับเส้นตรงโดยการใช้วิธีกำลังสองน้อยที่สุด เพื่อคำนวณหาเส้นตรงที่เหมาะสมที่สุดกับข้อมูลของคุณ แล้วส่งกลับอาร์เรย์ที่แสดงถึงเส้นตรงนั้น เนื่องจากฟังก์ชั่นนี้จะส่งกลับอาร์เรย์ที่บอกลักษณะเส้นตรงจึงต้องป้อนเป็นสูตรอาร์เรย์

รูปแบบของสูตรหรือฟังก์ชั่น LINEST คือ LINEST(known_y’s,known_x’s,const,stats)

Know_y’s คือ ชุดของค่า y ที่คุณทราบในความสัมพันธ์ y=mx+b

ถ้าอาร์เรย์ know_y’s อยู่ในคอลัมน์เดียว แต่ละคอลัมน์ของ known_x’s จะถูกแปลงเป็นตัวแปรแยกต่างหาก

ถ้าอาร์เรย์ known_y’s อยู่ในแถวเดียว แต่ละแถวของ known_x’s จะถูกแปลงเป็นตัวแปรแยกต่างหาก

Known_x’s คือ ชุดที่เลือกได้ของค่า x ที่คุณอาจจะทราบในความสัมพันธ์ y=mx+b

อาร์เรย์ known_x’s อาจประกอบด้วยชุดของตัวแปรหนึ่งชุดหรือมากกว่ากรณีที่มีการใช้ตัวแปรเพียงตัวแปรเดียว อาร์เรย์ know_y’s และ known_x’s อาจจะเป็นช่วงที่มีรูปร่างแบบใดก็ได้ ตราบใดที่ยังมีขนาดของอาร์เรย์เท่ากันอยู่ แต่กรณีที่มีการใช้ตัวแปรมากกว่าหนึ่งตัวแปร known_y’s ต้องเป็นแบบเวกเตอร์ (ซึ่งหมายความว่าต้องเป็นช่วงที่มีความสูงหนึ่งแถวหรือความกว้างหนึ่งคอลัมน์)

กรณ๊ที่ไม่ได้ใส่ค่าอาร์เรย์ known_x’s อาร์เรย์จะถูกกำหนดเป็นอาร์เรย์ {1,2,3…} ที่มีขนาดเท่ากับอาร์เรย์ known_y’s

Const เป็นค่าตรรกะที่ระบุว่าจะกำหนดให้ค่าคงที่ b เท่ากับ 0 หรือไม่

กรณีที่ const เป็น TRUE หรือละไว้ b จะถูกคำนวณตามวิธีปกติ

ถ้า const เป็น FALSE จะตั้งค่า b ให้เท่ากับศูนย์ และปรับค่า m ให้เหมาะสมกับสมการ y=mx

Stats คือ ค่าตรรกะที่ใช้ระบุว่าจะส่งกลับค่าสถิติการถอถอยเพิ่มเติมหรือไม่เติม ดังนั้นอาร์เรย์ที่ส่งกลับคือ {mm,mm-1,…,m1,b;sen,sen-1,…,se1,seb;r2,sey;F,df;ssreg,ssresid}

ถ้า stats เป็น FALSE หรือถ้าไม่ใส่ค่าอะไรไว้ฟังก์ชั่น LINEST จะส่งกลับเฉพาะสัมประสิทธิ์ m และค่าคงที่ b

ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง : GROWTH, LOGEST, TREND

ลองทำตัวอย่างต่อไปนี้ดูเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน

• ระบายเซลล์ A2:A8 แล้วพิมพ์ตัวเลขและกด Enter ไปจนครบดังนี้ 1,2,3,4,5,6,7

• ระบายเซลล์ B1:B8 จากนั้นพิมพ์และกด Enter ไปจนครบดังนี้ x,120,150,145,160,180,145,240

• คลิกเซลล์ C1 แล้วพิมพ์ Y

• ระบายเซลล์ A10:C10 จากนั้นพิมพ์ Y=mX+B และกด Enter แล้วพิมพ์ m แล้วกด Enter พิมพ์ b แล้วกด Enter

• คลิกเซลล์ B11 แล้วพิมพ์ =slope(b2:b8,a2:a8) แล้วกด Enter จะโชว์ 13.75

• คลิกเซลล์ C11 แล้วพิมพ์ =intercept(b2:b8,a2:a8) แล้วกด Enter จะแสดง 107.8571

• คลิกเซลล์ C2 แล้วพิมพ์ =$b$11*a2+$c$11 แล้วกด Enter จะแสดง 121.6071 จากนั้น Auto Fill สูตรลงมาที่เซลล์ C8

• ระบายเซลล์ A2:B8 แล้วสร้างกราฟเส้น หากต้องการหาสมการเส้นตรงให้ระบายข้อมูลจากเซลล์ C2:C8 แล้วลากเข้ามาที่กราฟ จะเห็นกราฟเส้นโชว์เพิ่มขึ้นมา

• หรือจะหาอีกวิธีหนึ่งก็คือ ให้คลิกที่จุดของกราฟเส้น แล้วคลิกเมนู Chart จากนั้นคลิกเลือกคำสั่ง Add Trendline

• คลิกเลือก Options จากนั้นเลือก Display equation on chart แล้วคลิกปุ่ม ok

• ที่บริเวณกราฟจะโชว์ y=13.75x+107.86

• ระบายเซลล์ B13:C13 จากนั้นพิมพ์ =lines(b2:b8) จากนั้นกดปุ่ม Ctrl+shift+Enter จะแสดงผลขึ้นมาให้เห็นคือ 13.75, 107.8571